• ALBUM
  • STORY
  • INTERVIEW
  • STORE

ดอนผีบิน กับการทำงานร่วมกับ บริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่

เรื่องการนำพาวงเข้าสู่บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่งเป็นเพียงการพบปะ จูนแนวคิดกัน แบบร่วมทดลองทำงานร่วมกันมากกว่า


ทำหรือไม่ทำมันอีกเรื่อง อย่ามะโน อย่าฝันหวานว่าเราจะได้เป็นดาราแล้ว มันคือธุรกิจ มันคือเรื่องของกำไร  ขาดทุน มันคือผลประโยชน์ได้เสียระหว่างเขาผู้ลงทุน กับเราผู้ที่ธรรมชาติให้กล่องดวงใจแห่งความเป็นตัวตนมา และแสงสว่างนี้จงรักษาใว้ให้ดี หากวันไหนพลาดพลั้งจะไม่มีวันแก้ตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป 


ผมเข้าใจดีในระบบธุรกิจ นายทุนเมื่อเขาลงทุนเขาก็ต้องได้กำไร การจะได้กำไรก็ต้องมาโละกันใหม่ โดยระดมทีมงานของเขาเข้ามาควบคุมทั้งหมด หากเรายอมรับการเจรจาเงื่อนไขนั้นๆ ในสเต็ปแรกการเจรจาเขาต้องการพบหัวหน้าวงอย่างเดียว เขาไม่ต้องการตัวแทน หรือสมาชิกมาเจรจา การเจรจามีหลายขั้นตอน  ตอนนั้นผมใช้ชีวิตอยู่ในป่าลึกปล่อยวางหมดแล้ว และคิดจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง จะทำงานศิลปะอยู่ในป่า ในอ้อมกอดธรรมชาติไปตลอดกาล   



ผมสร้างกระต้อบอยู่ในป่าลึกและมีคุณนิดที่คอยช่วยเหลือทุกสิ่ง ข้าวปลาอาหาร  ยารักษาโรค  ผมไม่ใช้เงินและไม่มีเงินสักบาท ที่พักอาศัยก็เอาไม้ไผ่เอาหินมาทำพออยู่ได้ หาปลาในลำธารกินไปวันๆ ขอผักจากสวนชาวป่าที่เขาแบ่งปันให้ยังชีพไป ขอให้ได้อยู่กับธรรมชาติ และทำให้ใจสงบก็พอใจ หลังเสร็จงานชุด 5 ผมไม่ติดต่อใคร  ไม่ติดต่อสมาชิกวง ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง…..



เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ฝนตกหนักมาก ในป่าลึกจะออกไปไหนไม่ได้มอเตอร์ไซค์ต้องใช้โซ่พันล้อถึงจะขับเคลื่อนได้ และในตอนคํ่าของคืนวันฝนตกนั้น จู่ๆก็มี สค ขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าฝนเข้ามาหาผมที่กระท่อมในป่าและบอกว่า คุณดี้ นิติพงษ์ห่อนาค จากจิราฟเร็คคอร์ดในเครื่อแกรมมี่….ต้องการพบหัวหน้าวงดอนผีบินและอยากทำงานร่วมสนใจในความดิบและแนวคิดของวง


ชีวิตส่วนตัวผมที่วาดแผนใว้ต้องพับไว้อีกครั้ง เพื่อเห็นแก่ทุกคนรอบตัว [ ในความรู้สึกตอนนั้นไม่ตื่นเต้น ไม่นึกอยากทำเพลงเพราะก้าวมาถึงชุดที่ 5 เหนื่อยมาก หมดพลัง และไม่อยากจากกระท่อมหลังเล็กๆนี้ไปเข้าสู่เมือง ]


การพบปะ เจรจาเกิดขึ้นจากการนัดพบของเจ้าของค่ายในวันต่อมาโดยมี สค และคุณนิดและผม ส่วน สศ ไม่มา จึงไม่ทราบรายละเอียด การเจรจาใช้ศักยภาพความเป็นตัวตนของแต่ละฝ่ายอย่างเดียวบริษัทยักษ์ใหญก็ระดับไหน ดอนผีบินก็สร้างชื่อมา 5 อัลบั้ม มาจากอันเดอร์กราว ผ่านยักษ์ใหญ่วอเนอร์มิวสิคมาแล้วครั้งหนึ่ง แก่นหัวใจของวันนั้นในสเต็ปแรกคือ สิ่งที่เขาถามคือ 


"ดอนผีบิน ต้องการทำงานกับเราแบบไหนบอกเราได้ แล้วทำไปเลย"


ผมได้มาทบทวนอย่างละเอียดกับ สค ณ ตอนนั้น ก็ตกลงทำ เนื่องจากภาพของงานที่ผ่านเป็นคอนเส็ปอัลบั้มและคอนเส็ปนี้ได้เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้วในความเป็นดอนผีบินเพื่อรักษาคอนเส็ปที่เดินทางมาด้วยหยาดเหงื่อทุกเม็ดของผู้แต่งเพลง ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมา และพลังธรรมชาติที่ซึมซับอยู่ในจิตวิญญาณของแฟนเพลงที่ให้การติดตามมาแล้ว  5 อัลบั้ม จึงเริ่มต่อคอนเส็ป ที่ 6 ที่จิตวิญญาณทุกหมู่เหล่าเดินทางมาถึงและพานพบ คือ  ปรากฏการณ์  ปรากฏกาย  



การนำเสนองานก่อนเซนต์สัญญาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันเป็นการตัดสินใจจากเจ้าของเงิน ดังนั้นหน้าที่เราคือการนำเสนอเค้าโครงงานความเป็นมาของงาน เหตุและผลที่ต้องทำแบบนี้มันจะไปต่อแบบนี้และเรื่องราวที่เรานำเสนอก็มีสาระและเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์โลกด้วย มีการนัดหมายกันอีกหลายขั้นตอนกับการนำเสนอการมีการสเก็ตแผนงานนำเสนอหลายรอบถึงคอนเส็ปอัลบั้ม ตลอดถึงเดโมเพลง ผมจะยังไม่ลงมือทำงาน จะนำเสนออยู่เรื่อยๆ เพื่อให้เขาเข้าใจในเจตนารมณ์ 


จนครั้งสุดท้ายเขาบอกว่า พอแล้วครับทำตามแบบที่คุณต้องการนั่นแหละ เราพร้อมงานโปรโมท ความชัดเจนแบบนี้ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่เขาบอกว่า ok ทำ  ให้คุณจัดการทุกอย่างเองเรื่องเพลงเราไม่ยุ่ง ส่วนที่ทางเขาจะทำคือการโปรโมท


ส่วน สค ไม่มีความเห็น ตามนั้น เพราะงานที่สร้างมามันเป็นคอนเส็ปอัลบั้มอยู่แล้ว ผมจึงเริ่มแต่งเพลงในอัลบั้มนี้ ใช้เวลานานพอสมควร เนื้อหาภายใต้ชื่ออัลบั้ม ปรากฏการณ์ ปรากฏกาย



ตัดตอนรายละเอียดเข้าสู่การทำงานบันทึกเสียงและโปรโมทงานไป เวลาผ่านไป ผลงานเสร็จ เผยแพร่ พร้อมโปรโมทโดยบริษัท [ ในส่วนนี้เราไม่ยุ่งให้เป็นหน้าที่ของบริษัทที่เขาลงทุนโดยนำเอาแก่นของงานที่เราทำให้ไปนำเสนอเอง] การทำงานในวงก็เป็นไปตามแบบเดิม นักดนตรีก็รอเดโมอย่างเดียว เพื่อที่จะนำไปถ่ายทอดในการบันทึกเสียง เนื่องจากเป็นงานคอนเส็ปอัลบั้มที่วางใว้ ก็ไม่มีใครมาเปลี่ยนแนวเพลงได้ ผมต้องแต่งเองทั้งหมดอีกครั้ง ส่วนสมาชิกคนไหนอยากเสริมเพิ่มเติมก็ทำได้เต็มที่ไม่ได้ห้าม เพราะเป็นโอกาสที่ทุกคนจะร่วมสร้างสรรค์ ผลงานภาพรวมของวงและเมื่อมีคนมาช่วยแต่งเพลงคนละเพลงสองเพลง ก็จะช่วยผมได้มากขึ้น โดยผมไม่ต้องแต่งทั้งหมด แต่ก็ไม่มีใครทำและนำเสนออะไรเลย


วันเวลาผ่านไปการโปรโมทของบริษัทใหญ่ที่คุมสื่อก็ถือว่ามาตราฐาน แต่เนื่องจากการจะทุ่มการโปรโมทไปอีกก้อนก็ต้องคิด และแยกแยะประเภทกลุ่มเป้าหมายให้ดี เช่นกลุ่มป็อบ กลุ่มร็อค กลุ่มอันเดอร์กราว เพราะกำลังซื้อ และฐานแฟนเพลงต่างกัน 



วันเวลาต่อมา ทางค่ายที่อยู่ในเครือน่าจะประสบปัญหาด้านยอดขายของศิลปินแต่ละประเภทในการลงทุน ดูเหมือนจะมีการปิดค่ายย่อยลงเพื่อเซฟงบประมาณ ส่วนยอดขายของปรากฏกาณ์ ปรากฏกาย ก็ไปได้ดีระดับหนึ่ง การทำงานร่วมกันจึงสรุปว่าดอนผีบินเป็นดนตรีที่ชัดเจนในแนวทาง และงานแตกต่างจากวงทั่วไปอย่างสิ้นเชิง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และไม่ใช่วงเด็กๆหน้าใหม่ที่จะต้องมาปลุกปั้นกัน ผู้บริหารก็เข้าใจ และส่วนตัวเขาเป็นศิลปิน นักดนตรี นักแต่งเพลงระดับประเทศเหมือนกัน มีผลงานมากมายคนหนึ่ง แค่มองงานดอนผีบินก็รู้แล้วว่าไม่รู้จะเสนอแนะหรือแก้ไขอะไร ส่วนความโด่งดัง ยอดขาย เพลงโจ้ะ เพลงฮิตนั้นมันมันคนละเรื่อง  ดอนผีบินก็ดังในแบบของดอนผีบินอยู่แล้ว ตามเส้นทางดอนผีบิน แต่จะมาดังแบบศิลปินขายหล่อ มันก็คนละทางกัน 


ก่อนค่ายจะปิดตัวลง ผมก็ได้พบปะกับผู้บริหารอีกครั้ง และขอบคุณในการที่ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกัน ก่อนแยกย้ายกันประโยคหนึ่งที่เขาคุยกับผมคือ


"ผลงานคุณมันเป็นศิลปะที่ชัดเจน มีกลุ่มเป้าหมายระดับหนึ่งที่เหนี่ยวแน่น ขอชื่นชม อย่าเปลี่ยนแนว ขอให้เป็นแบบคุณ ขายแบบคุณ อยู่แบบคุณ นั่นแหละถูกต้องแล้ว"

ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค
Giraffe records ในเครือ GMM Grammy



หมายเหตุ ::
ค่ามาสเตอร์ของผลงานชุดนี้ก็แบ่งจ่ายให้ทุกๆฝ่ายตามสมควรจะเป็นโดยไม่มีอคติใดๆ แต่มีเพียงสมาชิก
บางคนที่ทำสินค้าดอนผีบินมามากกว่าใครอื่น มาเป็นเวลากว่า 20 ปีตั้งแต่ชุด 2 จนมาถึงปัจจุบัน ขยายกิจการประเภทสินค้าอย่างออกหน้าออกตา โดยไม่ยำเกรงผู้ใด โดยไม่มีใครในวงเคยทักท้วงเลย แต่พอผลประโยชน์ส่วนตนที่เงียบมาตลอดถูกกาลเวลาทะลายลง ก็ออกมาสร้างภาพสงสาร  ถูกรังแก  วงยํ่าแย่เพราะคนๆนี้  เพลงไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม  วงก็แค่วงร็อกเล็กๆจากบ้านนอก แต่งเพลงก็ไม่รู้เรื่อง  ใจแคบเอาแต่ใจตัวเอง  นี่ทุกคนถ้าเชื่อผมนะ เอาคนนอกมาควบคุมเป็นโปรดิวเซอร์ มีผู้จัดการโน่นนี่นั่น รับรองไปสู่ระดับโลก


สำหรับผม…ผมว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนไหม! ทำในแบบที่เราเป็นด้วยจิตวิญญาณของเราในอนาคตต้องดีแน่นอน  อย่าดูถูกตัวเอง รัก และศรัทธา ในจิตวิญาณของตน คิดอยู่มุมเดียวไม่ได้ เราสร้างทุกสิ่งมากับหยาดเหงื่อ ด้วยความลำบาก จู่ๆให้คนนอกมานำพาเราไป สิ่งที่เขาจะนำพาคุณไปไม่ใช่สวรรค์ มันคือนรก ที่รอคุณอยู่ต่างหาก…… สับสนยังไม่สาย!! สัตเพ  สัตตา สัตว์โลกทั้งหลายจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย  กรรมใดใครก่อ…สิ่งใดใครทำรับกรรมไปเกิด !!!


ข้อคิด

"การเป็นศิลปินที่ดีต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล รู้จักหน้าที่ มีจรรยาบรรณ เคารพในความเป็นตัวตน อ่อนน้อมถ่อมตน เข้าใจและรู้สึกได้ในวิถีแห่งตน ด้วยจิตใต้สำนึกที่ผ่านการฝึกฝนขัดเกลามาเป็นอย่างดี  ให้อดทน อดกลั้น..แล้วผลงานนั้นมันจะสะท้อนตัวตนของคุณเอง"


โดย สมบัติ แก้วทิตย์
22 เมษายน 2568


02 May 2025
  • Facebook
  • Twitter
Share


  • ALBUM
  • STORY
  • INTERVIEW
  • STORE
All Rights Reserved   © 2021  DONPHEEBIN.COM

person
exit_to_app

or

Back to Login