![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-01.jpg)
![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-01.jpg)
บทสัมภาษณ์ 4 : คอนเสิร์ตคืนสู่ธรรมชาติ ปี 2540
เย็นวันที่ 25 พค. 40 เปรียบได้กับช่วงเวลาอันสำคัญยิ่ง สำหรับบรรดาขาร็อคทั้งหลาย ที่มีจุดมุ่งหมาย ร่วมในสิ่งเดียวกัน คือ ชมคอนเสิร์ท "Return To The Nature" ของ "ดอนผีบิน" ที่ระเบิดขึ้นบนเวทีหอประชุม A.U.A AUDITORIUM... ในไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้เอง!!!!!!!!!
ผู้คนคึกคักเต็มไปทั่วบริเวณพื้นที่ด้านล่าง ต่างใจจดใจจ่อเฝ้ารอคอยเวลาที่ ประตูสวรรค์กำลังจะเบิก รับอยู่ตรงหน้า เวลาได้ล่วงเลยมา จนถึงบ่าย 4 โมงครึ่ง นาทีระทึกจึงได้เริ่มบรรเจิดขึ้น ณ ภายในหอประชุมแห่งนี้
เสียงบทกล่าวนำกู่ก้องกระหึ่ม กล่าวถึงต้นตำนานเนินดอน จุดยุทธศาสตร์แห่งอดีตกาล อันเป็นจุดกำเหนิด วงสปีด เมทัล หมายเลข 1 ของไทย นาม "ดอนผีบิน"
เริ่มที่เสียงกรีดสายกีตาร์อันแพรวพราวแทนคำทักทายของพี่สมบัติ ตามด้วยเสียงกลองที่ครวญระห่ำ โดยพี่สมศักดิ์ เสียงกระชากคอร์ดที่แสนดุดันของพี่สมคิด และศิลปินรับเชิญให้เป็นผู้รับหน้าที่กระซวกสายเบสในงานนี้ ก็คือ พี่อุกฤษพิทักษ์ ประชากิจ ซาวด์เอนจิเนียร์ ที่เคยผ่านการร่วมงานกัยดอนผีบิน มาตั้งแต่ผลงานชุดแรก
![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-02.jpg)
![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-03.jpg)
ซึ่ง พี่สมบัติ และ พี่สมคิด ออกมาวาดลวดลาย โซโล่กีตาร์ คั่นเวลา และเป็นการให้คนดูได้พักผ่อนคลายลงบ้าง ก่อนที่จะเริ่มขับกล่อมกันต่อในเพลง "ตายก่อนกาล" "สองฟากฝั่ง" ช่วงนี้ซาวด์จากเดิมที่ดีอยู่แล้ว กลับดียิ่งขึ้นไปอีก(ชัดมากกว่าช่วงแรก) อันดีต้องยกนิ้วให้คน Mix ว่าพี่แก่เก่งจริงๆ ว่ะ
ลีลาบนเวทีของพี่ท่านแต่ละคนบอกได้เลยว่า "เยี่ยม" คงเพราะแต่ละคนรู้ในหน้าที่ของตัวเองดี การแสดงจึงมี ประสิทธิภาพขนาดนี้และรู้สึกได้ถึงการซักซ้อมที่แสนหนัก การเตรียมงานที่แสนเหนื่อย แต่ทว่าทางค่ายก็มองไม่เห็นคุณค่าของคำว่า "ทุ่มเท" มากกว่าคำว่า "เม็ดเงิน" หรอกว่ะ ต่อกันด้วยเพลง "รุ่งเรือง" "ก่อนจะไร้ซึ่งวิญญาณ" แล้วพักเหนื่อยกันอีกที เหลือบดูหน้าปัด ที่ข้อมือก็ประมาณ 17:40 น. เป็นเรื่องธรรมดาของแนวเพลงที่ต้องใช้พลัง อย่างมากโขในการขับขาน จำเป็นยิ่งที่ต้องคั่น เวลาเป็นระยะๆ ทั้งได้ประชาสัมพันธ์ถึง การร่วมสมทบทุน "โครงการอนุรักษ์ ป่าต้นน้ำภูสัน" จ.น่าน ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ที่หาสัมผัสได้ ยากในปัจจุบัน และนั้นก็เป็นอีกจุดประสงค์ นึงของการจัดคอนเสิร์ทนี้ด้วย
เป็นการจัดคอนเสิร์ต ที่ไม่ได้มีทางค่ายใหญ่อย่าง Warner เข้ามารองรับด้านทุนแต่อย่างใด เว้นแต่เสียแต่ด้าน ประชาสัมพันธ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดงานเท่านั้น ซึ่งอาจเล็งเห็นผลที่ออกมานั้นมันไม่ได้คุ้มทุนอย่างไอ้พวกคอนเสิร์ต "ควายหัวดอ" อะไรเทือกนั้นหรอก! แต่สำหรับงานนี้เราเน้นความมันส์สะใจกันที่มนต์เสน่ห์ของแนวดนตรี มากกว่าความสะใจที่ได้เห็นพวก "คนดูโง่เง่า ปัญญาหมา ห่าเหี้ย เชือดเฉือนกันเอง"
มาถึงช่วงสุดท้ายก็คงสุดเหวี่ยงกันชนิดไม่ต้องยั้งจนจบด้วย "อุบาทว์-อุบัติ" "วิถีทาง" "ทำไม"(เพลงเดียวใน อัลบั้มแรกที่เล่นในวันนั้น) คนดูยังคงมันส์ขลังอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเพื่อให้สมกับที่ตั้งหน้าตั้งตา ตั้งใจรอคอยมานาน แล้วก็ถึง เพลง "สุดแท้ทางเดิน" เป็นเพลงจบที่เหมือนกับจะสั่งลา การแยกย้ายด้วยความประทับใจในย่ำค่ำคืนนี้
![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-04.jpg)
งานนี้เลิกลาเอาตอนเกือบๆ 6โมงเย็นช่างเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งอันแสนวิเศษ และมีค่ามากมายที่เฝ้ารอคอย กันมานับหลายแรมหลายปีหรือเกือบๆ ครึ่งเส้นทางของพี่ๆ ดอนผีบินรวมทั้งบรรดาแหนเพลงขาร็อคทั้งหลายที่ต่างกำลังทะยอยออก จากเวทีหอประชุม AUA ก้าวหน้าเดินสู่โลกอัปรีย์แห่งความเป็นจริงกันต่อไป....
ผู้คนคึกคักเต็มไปทั่วบริเวณพื้นที่ด้านล่าง ต่างใจจดใจจ่อเฝ้ารอคอยเวลาที่ ประตูสวรรค์กำลังจะเบิก รับอยู่ตรงหน้า เวลาได้ล่วงเลยมา จนถึงบ่าย 4 โมงครึ่ง นาทีระทึกจึงได้เริ่มบรรเจิดขึ้น ณ ภายในหอประชุมแห่งนี้
เสียงบทกล่าวนำกู่ก้องกระหึ่ม กล่าวถึงต้นตำนานเนินดอน จุดยุทธศาสตร์แห่งอดีตกาล อันเป็นจุดกำเหนิด วงสปีด เมทัล หมายเลข 1 ของไทย นาม "ดอนผีบิน"
เริ่มที่เสียงกรีดสายกีตาร์อันแพรวพราวแทนคำทักทายของพี่สมบัติ ตามด้วยเสียงกลองที่ครวญระห่ำ โดยพี่สมศักดิ์ เสียงกระชากคอร์ดที่แสนดุดันของพี่สมคิด และศิลปินรับเชิญให้เป็นผู้รับหน้าที่กระซวกสายเบสในงานนี้ ก็คือ พี่อุกฤษพิทักษ์ ประชากิจ ซาวด์เอนจิเนียร์ ที่เคยผ่านการร่วมงานกัยดอนผีบิน มาตั้งแต่ผลงานชุดแรก
"ทางเดินเดิม" ในอัลบั้มล่าสุด "สองฟากฝั่ง" เป็นเพลงแรกเบิกทางในการขับกล่อมบรรยากาศ ต่อด้วย เพลง "เลือน ลาง-รำไร" ในชุดเดียวกัน ความรุนแรงของพลังคลื่นขลัง ได้สะกดคนดูให้เมา มันส์กับมนต์เสน่ห์ของบทเพลงโขยก ประสาท ที่กำลังชำแรกแทรกผ่านทั่วทุกอนู 2 รูโสต อย่างไม่ใยดี ไม่ยี่หระว่าโลกระยำภายนอกจะเป็นอย่างไร ตามด้วยอีกหลายเพลง ในอัลบั้มต่างๆ ที่บรรจงพรั่งพรูออกมา ราวกับสายน้ำที่กำลังไหลหลาก ไม่ว่าจะ "เมืองมรณา" "ดีใจหาย" "ทบทวนทาง" "ทางท้าทาย" และ "สิ้นสุดความหมายแห่งการดำรง"(Inst.) แล้วเบรคหยุดพักหายใจ หายคอกันทั่วท้อง
![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-02.jpg)
![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-03.jpg)
ซึ่ง พี่สมบัติ และ พี่สมคิด ออกมาวาดลวดลาย โซโล่กีตาร์ คั่นเวลา และเป็นการให้คนดูได้พักผ่อนคลายลงบ้าง ก่อนที่จะเริ่มขับกล่อมกันต่อในเพลง "ตายก่อนกาล" "สองฟากฝั่ง" ช่วงนี้ซาวด์จากเดิมที่ดีอยู่แล้ว กลับดียิ่งขึ้นไปอีก(ชัดมากกว่าช่วงแรก) อันดีต้องยกนิ้วให้คน Mix ว่าพี่แก่เก่งจริงๆ ว่ะ
ลีลาบนเวทีของพี่ท่านแต่ละคนบอกได้เลยว่า "เยี่ยม" คงเพราะแต่ละคนรู้ในหน้าที่ของตัวเองดี การแสดงจึงมี ประสิทธิภาพขนาดนี้และรู้สึกได้ถึงการซักซ้อมที่แสนหนัก การเตรียมงานที่แสนเหนื่อย แต่ทว่าทางค่ายก็มองไม่เห็นคุณค่าของคำว่า "ทุ่มเท" มากกว่าคำว่า "เม็ดเงิน" หรอกว่ะ ต่อกันด้วยเพลง "รุ่งเรือง" "ก่อนจะไร้ซึ่งวิญญาณ" แล้วพักเหนื่อยกันอีกที เหลือบดูหน้าปัด ที่ข้อมือก็ประมาณ 17:40 น. เป็นเรื่องธรรมดาของแนวเพลงที่ต้องใช้พลัง อย่างมากโขในการขับขาน จำเป็นยิ่งที่ต้องคั่น เวลาเป็นระยะๆ ทั้งได้ประชาสัมพันธ์ถึง การร่วมสมทบทุน "โครงการอนุรักษ์ ป่าต้นน้ำภูสัน" จ.น่าน ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ที่หาสัมผัสได้ ยากในปัจจุบัน และนั้นก็เป็นอีกจุดประสงค์ นึงของการจัดคอนเสิร์ทนี้ด้วย
เป็นการจัดคอนเสิร์ต ที่ไม่ได้มีทางค่ายใหญ่อย่าง Warner เข้ามารองรับด้านทุนแต่อย่างใด เว้นแต่เสียแต่ด้าน ประชาสัมพันธ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดงานเท่านั้น ซึ่งอาจเล็งเห็นผลที่ออกมานั้นมันไม่ได้คุ้มทุนอย่างไอ้พวกคอนเสิร์ต "ควายหัวดอ" อะไรเทือกนั้นหรอก! แต่สำหรับงานนี้เราเน้นความมันส์สะใจกันที่มนต์เสน่ห์ของแนวดนตรี มากกว่าความสะใจที่ได้เห็นพวก "คนดูโง่เง่า ปัญญาหมา ห่าเหี้ย เชือดเฉือนกันเอง"
มาถึงช่วงสุดท้ายก็คงสุดเหวี่ยงกันชนิดไม่ต้องยั้งจนจบด้วย "อุบาทว์-อุบัติ" "วิถีทาง" "ทำไม"(เพลงเดียวใน อัลบั้มแรกที่เล่นในวันนั้น) คนดูยังคงมันส์ขลังอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเพื่อให้สมกับที่ตั้งหน้าตั้งตา ตั้งใจรอคอยมานาน แล้วก็ถึง เพลง "สุดแท้ทางเดิน" เป็นเพลงจบที่เหมือนกับจะสั่งลา การแยกย้ายด้วยความประทับใจในย่ำค่ำคืนนี้
![](https://www.donpheebin.com/userfiles/media/default/dpb-live-04.jpg)
งานนี้เลิกลาเอาตอนเกือบๆ 6โมงเย็นช่างเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งอันแสนวิเศษ และมีค่ามากมายที่เฝ้ารอคอย กันมานับหลายแรมหลายปีหรือเกือบๆ ครึ่งเส้นทางของพี่ๆ ดอนผีบินรวมทั้งบรรดาแหนเพลงขาร็อคทั้งหลายที่ต่างกำลังทะยอยออก จากเวทีหอประชุม AUA ก้าวหน้าเดินสู่โลกอัปรีย์แห่งความเป็นจริงกันต่อไป....
02 Sep 2021
Share